ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3461 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6207 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6162 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9219 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.31 เยน จากระดับ 101.09 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9072 ฟรังค์ จากระดับ 0.9195 ฟรังค์ และแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0531 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.0525 ดอลลาร์แคนาดา
ทั้งนี้ ยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากที่สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 109.3 จาก 107.4 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีเดือนล่าสุดถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555 และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดมาก
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันบวกขึ้นสู่ระดับ 112.2 จาก 111.3 ในเดือนก.ย. ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจก็ปรับขึ้นแตะ 106.3 จาก 103.7 ในเดือนที่แล้ว
โดยสกุลเงินยูโรปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากที่แข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนยันว่ายังไม่มีความคืบหน้าใดๆเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในยูโรโซน
ด้านดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี เมื่อเทียบกับเงินเยน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป หลังจากนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานบีโอเจ กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าเงินเยนอยู่ในระดับต่ำอย่างผิดปกติ
ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และทะลุระดับ 101 เยนในวันก่อนหน้า หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินอาจลดวงเงินซื้อพันธบัตรจากปัจจุบันที่เดือนละ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า