ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.12 เยน จากระดับ 101.24 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9081 ฟรังค์ จากระดับ 0.9063 ฟรังค์
ยูโรเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.3573 ดอลลาร์สหรัฐ แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนที่ระดับ 1.3574 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6277 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6218 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.9077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9135 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดเงินนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 75.1 เพิ่มขึ้นจาก 73.2 ในช่วงท้ายเดือนต.ค. เนื่องจากผู้บริโภคที่มีรายได้สูงมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 23 พ.ย. ปรับตัวลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 316,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 330,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 97.5 ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทรงตัว
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้ ซึ่งการลดมาตรการดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 3/2556 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า