ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.08 เยน จากระดับ 102.43 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9086 ฟรังค์ จากระดับ 0.9067 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3539 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3583 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6347 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6365 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9100 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9110 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 57.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนเม.ย.2554 จากระดับ 56.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในภาคการผลิตยังคงมีความต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2556
ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะ 54.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน จากระดับ 51.8 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ 54.3
สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพอยู่ที่ 2% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะปรับนโยบายการเงินหากจำเป็น