ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.15 เยน จากระดับ 103.60 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8983 ฟรังค์ จากระดับ 0.8884 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3656 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3751 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.6371 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8857 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8872 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุด ด้วยการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เนื่องจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ เฟดให้คำมั่นว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าอัตราว่างงานจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 6.5% ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค. พุ่งขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 379,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 334,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 368,000 ราย
ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ร่วงลง 4.3% สู่ระดับ 4.90 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงแตะระดับ 5.03 ล้านยูนิต จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 5.12 ล้านยูนิต