ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.71 เยน จากระดับ 104.27 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8963 ฟรังค์ จากระดับ 0.8954 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3693 ดอลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3683 ดอลลารสหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.6421 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6397 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8891 ดอลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8927 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน จากการคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน โดย บีโอเจมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะดำเนินการเพื่อเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี เพื่อจัดการกับภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 20 ปี
ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ฐานเงิน (monetary base) หรือปริมาณธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนอยู่ในมือประชาชนและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเงินฝากที่สถาบันการเงินสำรองไว้กับธนาคารกลาง พุ่งขึ้น 52.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 189.72 ล้านล้านเยน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน เนื่องจากบีโอเจเดินหน้าอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อจัดการกับภาวะเงินฝืด ภายใต้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุก
นักวิเคราะห์คาดว่าคาดว่า ฐานเงินของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200 ล้านล้านเยนภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 270 ล้านล้านเยนภายในสิ้นปีหน้า หากบีโอเจดำเนินนโยบายการเงินตามที่ได้วางแผนไว้
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ธ.ค. ปรับตัวลง 42,000 ราย แตะที่ 338,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน และเป็นการปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 379,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง