ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.24 เยน จากระดับ 102.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9029 ฟรังค์ จากระดับ 0.8996 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3671 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3672 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.6434 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6387 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8958 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9059 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะลด QE ลงอีก หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1%
ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจของสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เช่นกัน
เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่าญี่ปุ่นขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. โดยเป็นยอดเกินดุลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการจัดเก็บข้อมูลเปรียบเทียบในปี 2528
กระทรวงระบุในรายงานเบื้องต้นว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดที่กว้างที่สุดด้านการค้าระหว่างประเทศนั้น อยู่ที่ 5.928 แสนล้านเยนในเดือนพ.ย.
ส่วนยอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 1.2543 ล้านล้านเยนกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่น อยู่ที่ 5.928 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นยอดเกินดุลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่มีการจัดเก็บข้อมูลเปรียบเทียบในปี 2528 ส่วนยอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 1.2543 ล้านล้านเยน