ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 104.34 เยน จากระดับของวันพุธที่ 104.61 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9049 ฟรังค์ จากระดับ 0.9088 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3614 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3602 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6369 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสตเรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8816 ดอลลาร์สหรัฐ 0.8909 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ปรับตัวลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 328,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% แต่น้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2%
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำนั้น จะช่วยเปิดทางให้เฟดยังคงเดินหน้าตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ในรายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดมองว่าจำเป็นต้องจับตาความคืบหน้าด้านเงินเฟ้ออย่างระมัดระวังเพื่อประเมินความชัดเจนว่า เงินเฟ้อ ซึ่งได้ปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% อย่างต่อเนื่องนั้น จะกลับมาเคลื่อนไหวสู่เป้าหมายระยะยาวของเฟดเมื่อใด