ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.46 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 102.63 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9005 ฟรังค์ จากระดับ 0.8982 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3594 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3638 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6598 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6449 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9032 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9037 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากนางเยลเลนได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า การฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะช่วยให้ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 221 ต่อ 201 ผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งจะช่วยขยายเพดานหนี้ไปจนถึงกลางเดือนมี.ค.2557 และจะเปิดทางให้กระทรวงการคลังสหรัฐสามารถออกตราสารหนี้ชุดใหม่ที่มีมูลค่าสูงกว่าเพดานปัจจุบันที่ 17.2 ล้านล้านดอลลาร์
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากรายงานภาวะเงินเฟ้อฉบับล่าสุดของธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจอังกฤษปี 2557 สู่ระดับการขยายตัว 3.4% จากเดิมคาดการณ์ที่ 2.8%
ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางยังมีความเป็นไปได้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ส่วนอัตราว่างงานก็ปรับตัวลงสู่ระดับ 7.1% ในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย.