ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3743 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3735 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นสู่ระดับ 1.6677 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6665 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.17 เยน จากระดับ 102.47 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8871 ฟรังค์ จากระดับ 0.8890 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9016 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9039 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแรง โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนก.พ.สู่ระดับ 78.1 จากระดับ 79.4 ในเดือนม.ค. เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต
นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนธ.ค.2556 ปรับตัวสูงขึ้น 13.4% จากเดือนเดียวกันของปี 2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าคณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่าเงินเฟ้อในยูโรโซนจะแตะ 1% ในปีนี้ และ 1.3% ในปี 2558 ซึ่งยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ 2%
อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในยูโรโซนบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่อีซีบีจะดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมนโยบายในวันที่ 6 มี.ค.นี้
ทั้งนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีสหรัฐช่วงไตรมาส 4/2556 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน