ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3860 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3731 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นสู่ระดับ 1.6742 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6712 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.05 เยน จากระดับ 102.32 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8805 ฟรังค์ จากระดับ 0.8877 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9096 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8983 ดอลลาร์สหรัฐ
อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า เงินเฟ้อในยูโรโซน ซึ่งอยู่ที่ 0.8% ในเดือนก.พ.นั้น จะเพิ่มขึ้น 1% ในปีนี้ และจะปรับขึ้นแตะ 1.7% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2559
ประธานอีซีบียังกล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีสรุปว่ายังจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจ โดยนับเป็นการบ่งชี้ว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งได้หนุนเงินยูโรให้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 1 มี.ค. ปรับตัวลดลง 26,000 ราย มาอยู่ที่ 323,000 ราย เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะลดลงที่ระดับ 336,0000 ราย ซึ่งส่งสัญญาณถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งขึ้นของตลาดแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ภาคโรงงานของสหรัฐได้ปรับตัวลงอย่างเหนือคาดหมายในเดือนม.ค. นับเป็นอีกสัญญาณของการหดตัวลงของกิจกรรมการผลิต โดยยอดสั่งซื้อสินค้าภาคการผลิตปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนม.ค. หลังจากที่ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินภาวะตลาดแรงงานและทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐ