ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.36 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% แตะที่ 1.3941 ดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 143.17 เยน
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากนายแพรทกล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ส่วนภาคการผลิตและรายได้ก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และคาดว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศของยูโรโซนจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น
การแสดงความคิดเห็นของนายแพรท สอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ โดยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นแตะ 52.6 จาก 51.6 ในเดือนม.ค. และเทียบกับข้อมูลเบื้องต้นที่ 51.7 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นที่ 55.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือน จาก 53.1 ในเดือนม.ค.
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแม้ว่าทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในวันนี้ก็ตาม โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มี.ค. ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 315,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 330,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 323,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว