ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรอ่อนค่า หลังอีซีบีส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3826 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3838 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6530 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6494 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9128 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.27 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 102.25 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8828 ฟรังค์ จากระดับ 0.8809 ฟรังค์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนายเจนส์ ไวด์มานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี หรือบุนเดสแบงก์ และสมาชิกสภาบริหารของอีซีบี กล่าวว่า อีซีบีอาจจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อสกัดการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร ขณะที่นายโจเซฟ มาคุช สมาชิกสภาบริหารอีกคนหนึ่งของอีซีบีกล่าวว่า อีซีบีอาจจะอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืดในยูโรโซน

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือนมี.ค.ปรับตัวลงแตะ 110.7 จากระดับ 111.3 ในเดือนก.พ. เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ภายหลังจากที่รัสเซียได้ผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนมี.ค. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 หรือในรอบกว่าหกปี

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 82.3 จากระดับ 78.3 ในเดือนก.พ. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ดัชนีเดือนมี.ค.จะอยู่ที่ 78.4

ด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านในเดือนม.ค.2557 ปรับตัวขึ้น 13.2% จากเดือนเดียวกันของปี 2556 หลังจากเพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบรายปีในเดือนธ.ค. บ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง