ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.24 เยน จากระดับ 102.30 เยนในการซื้อขายเมื่อวันก่อน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8780 ฟรังค์ จากระดับ 0.8792 ฟรังค์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.0978 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.0967 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3871 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3865 ดอลลาร์ในการซื้อขายวันก่อน ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.6869 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6895 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9267 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9272 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกของวัน เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 288,000 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2555 และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ราว 210,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ อัตราว่างงานยังลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 6.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หรือในรอบห้าปีครึ่ง
ข้อมูลจ้างงานที่ออกมาดีทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจลดวงเงินซื้อบอนด์เร็วขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนตัดสินใจว่า ข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งอาจจะไม่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะกรรมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดระบุว่า เฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำพิเศษต่อไปอีกค่อนข้างนานหลังจากโครงการซื้อพันธบัตรสิ้นสุดลง นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศในการปิดประชุมระยะเวลาสองวันว่าจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ลงเหลือ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนพ.ค.นี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังก์สวิส หลังจากมีรายงายว่ารัฐบาลยูเครนได้เปิดปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มผู้ฝักใฝ่รัสเซียในเมืองสโลเวียนสก์ทางภาคตะวันออกของประเทศ