ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3755 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3747 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.6866 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6843 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9363 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9355 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.17 เยน จากระดับ 101.79 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8881 ฟรังค์ จากระดับ 0.8873 ฟรังค์
เงินเยนอ่อนค่าลงหลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ 2556 อยู่ที่ 7.899 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอดการนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลพุ่งขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นที่ผันผวนตามสถานการณ์เศรษฐกิจญี่ปุ่นในปัจจุบันของ "อาชีพที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ" อาทิ คนขับแท็กซี่ และลูกจ้างร้านอาหาร ร่วงลงจากเดือนมีนาคม 16.3 จุด แตะที่ระดับ 41.6 จุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การขึ้นภาษีการบริโภคของญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจของประชาชนผู้ทำงานในอาชีพที่มีความอ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในระดับที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิเมื่อปี 2554
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแม้ว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมครั้งล่าสุดว่า อีซีบีอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย.นี้ พร้อมกับระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อรายปีของยูโรโซนจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในอีกหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวขึ้นในช่วงปี 2558 จนถึงใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของอีซีบี ภายในสิ้นปี 2559