ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3594 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นที่ 1.6720 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6709 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.73 เยน จากระดับ 101.86 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8977 ฟรังค์ จากระดับ 0.8983 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9266 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2557 โดยระบุว่าจีดีพีหดตัว 1% ซึ่งเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2554
ข้อมูลจีดีพีที่หดตัวลงของสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากต่อไปเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะส่งผลกดดันค่าเงินดอลลาร์
ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้ฉุดค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาในเชิงบวก โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้น หลังจากที่เผชิญกับภาวะซบเซาในช่วงต้นปี
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค. ปรับตัวลง 27,000 ราย แตะที่ 300,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 318,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง