ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3599 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3623 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.6744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6746 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.71 เยน จากระดับ 102.52 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8971 ฟรังค์ จากระดับ 0.8968 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9277 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9257 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีจะประชุมกันในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการเงิน นักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่าอีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หรือดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณบางประการเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดในยุโรป ซึ่งเป็นปัจจัยถ่วงค่าเงินยูโร
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท แสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อในยูโรโซนในเดือนพ.ค.ลดลงแตะ 0.5% จาก 0.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าอย่างมากเมื่อเทียบกับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาในทิศทางแตกต่างกัน โดย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ รายงานว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 210,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 6.9% สู่ระดับ 4.724 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าที่ขยายตัว 1.2% ขณะที่ยอดส่งออกหดตัวลง 0.2%
ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเพิ่มขึ้นแตะ 56.3 ในเดือนพ.ค. จาก 55.2 ในเดือนเม.ย. นับว่าขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 9 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55.5 โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวในภาคบริการ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับตัวของตลาดแรงงาน