ยูโรอ่อนค่า เหตุวิตกเสถียรภาพแบงก์โปรตุเกส,ผลผลิตอุตสาหกรรมอิตาลีหดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 10, 2014 21:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารรายใหญ่ในโปรตุเกสและภาคการผลิตของอิตาลีที่อ่อนแรงลงนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรายงานการประชุมที่มีการเผยแพร่ครั้งล่าสุด

ทั้งนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.73% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 137.56 ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. และแข็งค่าขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 101.06 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.ปีนี้

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพธนาคารบังโค เอสปิริโต ซานโต ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของโปรตุเกส หลังจากมีรายงานว่า เอสปิริโต ซานโต ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารบังโค เอสปิริโต ซานโต ได้เลื่อนการจ่ายเงินไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งความวิตกกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโรซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่า และหันไปซื้อสกุลเงินเยนซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่า

นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบันสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลี หดตัวลง 1.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.1%

ขณะที่สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากรายงานการประชุมของเฟด ซึ่งเป็นที่จับตาของตลาดนั้น ระบุว่าเฟดจะการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ครั้งสุดท้ายหลังจากการประชุมนโยบายประจำเดือนต.ค. หากเศรษฐกิจมีความคืบหน้าตามที่คาด

อย่างไรก็ตาม รายงานของเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก และนักวิเคราะห์เชื่อว่าแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์จะมีไม่มากนัก หากไม่มีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2558 จากเฟด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ