ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3374 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3419 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6876 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6854 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 102.55 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9093 ฟรังค์ จากระดับ 0.9068 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9300 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9331 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนก.ค. จากระดับ 56 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขเดือนก.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2548 หรือในรอบแปดปีครึ่ง และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่เพียง 56.5
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่สี่ในรอบห้าเดือน และมากที่สุดในรอบสามเดือน อีกทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงเกือบสองเท่า
ทางด้านธนาคารกลางออสเตรเลียได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% เมื่อวานนี้ ขณะที่จะทราบผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดี และธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้