ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2908 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2958 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6121 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6331 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 105.88 เยน เทียบกับระดับ 105.06 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9344 ฟรังค์ จาก 0.9309 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9291 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9376 ดอลลาร์
เฟดรายงานเมื่อวานนี้ว่า ผู้บริโภคสหรัฐมีการกู้ยืมเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากสินเชื่อรถยนต์และการใช้บัตรเครดิตที่เพิ่มมากขึ้น
เงินปอนด์ร่วงลง หลังจากผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สนับสนุนให้สก็อตแลนด์แยกตัวออกจากราชอาณาจักรมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 51% ส่วนผู้ที่คัดค้านลดลงมาอยู่ที่ 49% โดยสก็อตแลนด์จะจัดการลงประชามติในวันที่ 18 ก.ย.นี้
ส่วนยูโรยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่น (อีซีบี) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง พร้อมระบุว่าอีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในยูโรโซน