ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2925 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2905 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6223 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6199 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.05 เยน เทียบกับระดับ 106.82 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9357 ฟรังค์ จาก 0.9376 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9158 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ได้ให้คำมั่นในการแถลงเมื่อคืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขา “จะไม่ลังเลที่จะจัดการ" กับกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในซีเรีย รวมทั้งในอิรักด้วย
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังคงปรับตัวที่ราวระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเมื่อเทียบเงินเยน จากสัญญาณบ่งชี้ว่าทั้งบีโอเจและรัฐบาลญี่ปุ่นต่างก็พร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ จากกระแสคาดการณ์ต่อเนื่องว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่นักลงทุนจะจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ส่วนเงินปอนด์ของอังกฤษฟื้นตัวขึ้น อ้นเนื่องมาจากความวิตกที่ลดน้อยลงเกี่ยวกับการลงประชามติว่าด้วยการแยกตัวเป็นอิสระของสกอตแลนด์ หลังจากที่ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจที่โหวต “No" ซึ่งไม่สนับสนุนการแยกตัวของสกอตแลนด์นั้น มีจำนวนแซงหน้ากลุ่มที่โหวต “Yes"