ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2631 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6203 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.19 เยน เทียบกับระดับ 109.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9571 ฟรังค์ จาก 0.9548 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8746 ดอลลาร์
สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในภาคเอกชนเมื่อคืนนี้ โดยบริษัทออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ รายงานว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด อันเป็นผลมาจากการจ้างงานที่แข็งแกร่งในภาคการผลิต
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆกลับสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์อยู่บ้าง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 56.6 จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 58.5
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนส.ค.ปรับตัวลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5%
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูสำคัญที่จะมีการรายงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เพื่อประเมินภาพรวมเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ