ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.5967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.84 เยน จากระดับ 108.41 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9674 ฟรังค์ จากระดับ 0.9537 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์แคนาดาลดลงแตะระดับ 1.1256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1155 ดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในตระกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นแตะ 86.746 ในการซื้อขายระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2543 และปิดที่ 86.668 เพิ่มขึ้น 1.07%
ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.01 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 หรือในรอบ 7 เดือน เนื่องจากการส่งออกขยายตัวมากกว่าการนำเข้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน