ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2658 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6049 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.15 เยน เทียบกับระดับ 109.01 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9578 ฟรังค์ จาก 0.9614 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8812 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8747 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน จากการที่ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็นขยายตัว 3.3% ซึ่งลดลง 0.1% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าลง 0.2% สู่ระดับ 3.8% โดยระบุว่าการปรับลดดังกล่าวส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอลงกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 พร้อมกับเสริมว่าการฟื้นตัวดำเนินไปอย่างไม่สม่ำเสมอ
ขณะเดียวกันเงินเยน ซึ่งถือเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยนั้น ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนชะลอความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ร่วงลง 4% จากเดือนก.ค. ที่ขยายตัว 1.6% นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่กระทรวงได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีจะชะลอตัวลง
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้ ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนต้องการประเมินสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย