ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเยน หลังนลท.เลี่ยงความเสี่ยงเหตุวิตกศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 8, 2014 07:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่และอ่อนแรงลงเป็นวันที่ 2 เมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีหดตัวลง และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2658 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2619 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6049 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.15 เยน เทียบกับระดับ 109.01 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9578 ฟรังค์ จาก 0.9614 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8812 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8747 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน จากการที่ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็นขยายตัว 3.3% ซึ่งลดลง 0.1% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าลง 0.2% สู่ระดับ 3.8% โดยระบุว่าการปรับลดดังกล่าวส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอลงกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 พร้อมกับเสริมว่าการฟื้นตัวดำเนินไปอย่างไม่สม่ำเสมอ

ขณะเดียวกันเงินเยน ซึ่งถือเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยนั้น ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนชะลอความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ร่วงลง 4% จากเดือนก.ค. ที่ขยายตัว 1.6% นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับที่กระทรวงได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของเยอรมนีในเดือนส.ค.หดตัวลง 5.7% โดยร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นกัน และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 2.5% ซึ่งบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจเยอรมนีจะชะลอตัวลง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้ ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนต้องการประเมินสัญญาณบ่งชี้มากขึ้นเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ