ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักๆ เหตุวิตกศก.โลกหนุนแรงซื้อดอลล์

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday October 11, 2014 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังชะลอตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่านรายงานการประชุมเดือนที่แล้วว่า เฟดจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.84 เยน จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 107.79 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9581 ฟรังค์ จากระดับ 0.9541 ฟรังค์

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2615 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2688 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6120 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.8708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8774 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเศรษฐกิจทั่วโลกส่งสัญญาณชะลอตัว รวมถึงยอดส่งออกของเยอรมนีที่หดตัวลง 5.8% ซึ่งเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 5 ปี และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 สู่ระดับ 3.3% และปี 2558 สู่ระดับ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ

นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อปกป้องเศรษฐกิจยูโรโซนให้รอดพ้นจากภาวะเงินฝืด และพร้อมที่จะใช้มาตรการแทรกแซงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังย่ำแย่

อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบีอาจจะไม่ราบรื่น หลังจากที่นายโวล์ฟกัง ชอยเบอร์ รัฐมนตรีคลังเยอรมนีได้ออกมาเตือนเรื่องผลกระทบของการใช้มาตรการ QE แบบเดียวกับในสหรัฐ และเรียกร้องให้ประเทศยูโรโซนหันมาเพิ่มวินัยด้านการคลังเพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

การแสดงความคิดเห็นของนายชอยเบิลถือเป็นการขัดแย้งกับที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้กล่าวในที่ประชุมของสถาบันบรูคกิงส์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อเร็วๆนี้ว่า อีซีบีพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่เกิดจากการที่เงินเฟ้อเคลื่อนไหวในระดับต่ำนานจนเกินไป และยังกล่าวด้วยว่า อีซีบีเราพร้อมที่จะใช้มาตรการขนานใหญ่ และ/หรือ ใช้มาตรการแทรกแซงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งถ้อยแถลงของนายดรากิถือเป็นการส่งสัญญาณที่หนักแน่นว่า อีซีบีพร้อมที่จะเปิดตัวโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ของรัฐบาล หรือที่เรียกกว่ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อป้องกันเศรษฐกิจยูโรโซนจากภาวะเงินฝืด

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า สัญญาณชี้นำล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกนาน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ