ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2679 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2615 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6061 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6052 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.33 เยน เทียบกับระดับ 107.84 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9535 ฟรังค์ จาก 0.9581 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8760 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8708 ดอลลาร์
เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาแสดงมุมมองที่สอดคล้องกันเกี่ยวกับความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจจะส่งต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด โดยหากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดล่าช้าออกไปมากกว่าที่คาดก็นับเป็นปัจจัยลบต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟดกล่าวในการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า หากการขยายตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศอ่อนแอกว่าที่คาด ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของเฟดล่าช้าออกไป
ความเห็นของนายฟิชเชอร์นับเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำในปัจจุบันต่อไปอีกในช่วงอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้ คำกล่าวของนายฟิชเชอร์ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับความเห็นของนายแดเนียล ทารุลโล ผู้ว่าการเฟด ซึ่งกล่าวในวันเดียวกันว่า เขามีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การแข็งค่าของดอลลาร์และการขยายตัวที่อ่อนแรงของเศรษฐกิจต่างประเทศอาจจะทำให้เฟดมีเหตุผลน้อยลงสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ย