ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2489 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5974 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.57 เยน เทียบกับระดับ 113.78 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9595 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8685 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแรง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐได้เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในต่างประเทศและดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นทำให้อุปสงค์ด้านสินค้าและบริการของสหรัฐอ่อนแอลง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้รายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.6% สู่ระดับ 4.994 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะชะลอลงในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้