ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2386 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2478 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5837 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5977 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 114.93 เยน เทียบกับระดับ 114.71 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9721 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8575 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8582 ดอลลาร์
ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งที่สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้นับเป็นปัจจัยบวกสำหรับดอลลาร์ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 1 พ.ย. ปรับตัวลง 10,000 ราย แตะที่ 278,000 ราย นับเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ซึ่งบ่งชี้ว่าการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การเลิกจ้างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 285,000 ราย
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น ลดลง 2,250 ราย แตะที่ระดับ 279,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2543
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรขยายตัว 2% ต่อปีในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2557
สำหรับต้นทุนแรงงานต่อหน่วย ซึ่งเป็นสัดส่วนผลตอนแทนรายชั่วโมงต่อประสิทธิภาพการผลิตของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ต่อปีในช่วงไตรมาส 3
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และเริ่มซื้อหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจภูมิภาคที่ซบเซา โดยยูโร/ดอลลาร์ร่วงลงแตะ 1.2383 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2555