ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2432 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5718 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5783 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 115.71 เยน เทียบกับระดับ 115.54 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9625 ฟรังค์ จาก 0.9670 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8724 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8715 ดอลลาร์
ดอลลาร์ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร เนื่องจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 8 พ.ย. ปรับตัวขึ้น 12,000 ราย แตะที่ 290,000 ราย
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 280,000 ราย
ข้อมูลที่อ่อนแรงดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกว่าตลาดแรงงานของสหรัฐไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกลางปีหน้า
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในวันนี้ ซึ่งรวมถึง ยอดค้าปลีกเดือนต.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน เพื่อประเมินภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐ