ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2477 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2443 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5740 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5629 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.28 เยน เทียบกับระดับ 118.75 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9640 ฟรังค์ จาก 0.9657 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8504 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนแรงลงหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 58.7 จาก 59.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวชะลอลงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 54.8 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน จาก 55.9 ในเดือนต.ค.
ส่วนเงินเยนได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลง 1 ขั้น สู่ระดับ A1 จาก Aa3 เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของญี่ปุ่นในการฟื้นฟูฐานะทางการคลัง