ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2435 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2451 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5642 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5706 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.71 เยน เทียบกับระดับ 118.75 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9658 ฟรังค์ จาก 0.9645 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8250 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตรวัดผลผลิตในภาคการผลิต สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม เฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ในเขตนิวยอร์กในเดือนธ.ค.ปรับตัวลงแตะ -3.58 จากระดับ 10.16 ในเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีที่ดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนลบ
ขณะเดียวกัน สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยว ลดลง 1 จุด แตะที่ระดับ 57 ในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดและบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐยังขาดความต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างกำลังรอดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในวันอังคารและพุธนี้ เพื่อประเมินภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด