ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2283 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2324 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5670 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5560 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.81 เยน เทียบกับระดับ 118.61 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9800 ฟรังค์ จาก 0.9744 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8157 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8119 ดอลลาร์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐเมื่อคืนนี้เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 13 ธ.ค. ปรับตัวลง 6,000 ราย แตะที่ 289,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยสะท้อนว่าการจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง
ขณะเดียวกัน คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ย. บ่งชี้ว่าสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้ ไม่ได้ให้คำมั่นเกี่ยวกับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% “เป็นระยะเวลานาน" ในการส่งสัญญาณชี้นำเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย