ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2176 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2219 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5558 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5554 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.39 เยน เทียบกับระดับ 120.15 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9878 ฟรังค์ จากระดับ 0.9841 ฟรังค์ ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.1626 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.1628 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.81117 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ โดยยังคงรักษาแรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยว่าจีดีพีไตรมาส 3/2557 ขยายตัว 5% ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 3.9% และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่ระดับ 4.6% นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.3% เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ
ส่วนในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 9,000 ราย แตะที่ 280,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังหลังจากกระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 2.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หากไม่พิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีเมื่อเดือนเม.ย. ดัชนี CPI พื้นฐานในเดือนพ.ย. ขยายตัว 0.7% ซึ่งชะลอลงจากอัตรา 0.9% ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อย่างมาก ซึ่งจุดกระแสคาดการณ์ว่า บีโอเจอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่อาจทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอีก