ค่าเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2154 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5557 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5520 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.55 เยน เทียบกับระดับ 120.72 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9895 ฟรังค์ จาก 0.9898 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8180 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8129 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการปรับโพสิชันก่อนสิ้นปี ขณะที่ไม่มีความคืบหน้าใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค
สกุลเงินยูโรมีแนวโน้มร่วงลงมากที่สุดเมื่อพิจารณารายปีในรอบ 9 ปีเมื่อเทียบกับดอลาร์สหรัฐ จากข่าวที่ว่ากรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงต้นปีหน้า หลังจากรัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ได้ในการลงคะแนนเสียงรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายที่จัดขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
ภาวการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มทางการเมืองของกรีซ รวมทั้งความเป็นเอกภาพของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในยูโรโซนด้วย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ก็ออกมาไม่สดใสนัก โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 4.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 4.8% ในเดือนก.ย. และหากเทียบรายเดือนพบว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองเพิ่มขึ้น 0.8%
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าราคาบ้านในสหรัฐมีการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในเดือนต.ค. และการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงเปราะบาง
ขณะเดียวกัน คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 92.6 จาก 91.0 ในเดือนพ.ย. แต่ยังคงต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 93.0
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดเงินนิวยอร์กเป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกจากตลาดในช่วงเทศกาลวันหยุด