ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1848 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1914 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5120 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5165 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.01 เยน เทียบกับระดับ 118.63 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0138 ฟรังค์ จาก 1.0082 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8078 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8109 ดอลลาร์
ในรายงานการประชุมเฟดที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ได้แสดงการสนับสนุนการประเมินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นางเยลเลนกล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมในเดือนธ.ค.ว่า ไม่มีแนวโน้มที่จะเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2-3 ครั้งหน้าเป็นอย่างน้อย โดยระบุเพิ่มเติมว่า “ช่วงเวลาในการเริ่มปรับเพิ่มเป้าหมายดอกเบี้ยระยะสั้น รวมทั้งทิศทางสำหรับเป้าหมายดังกล่าวหลังจากนั้น จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ"
บรรดานักวิเคราะห์ได้ตีความการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวว่า “เป็นการก้าวไปอีกขั้นสู่การถอนตัวจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย" ขณะที่นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้ เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ หลังจากรายงานการจ้างงานแห่งชาติของ ADP แสดงให้เห็นว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2557 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าภาคสินค้าและบริการของสหรัฐลดลง 7.7% ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี โดยได้รับอานิสงส์จากการดิ่งลงของราคาน้ำมัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะคาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.