ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1367 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1266 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5201 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5077 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.80 เยน เทียบกับระดับ 118.47 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8993 ฟรังก์ จาก 0.9004 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7938 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7918 ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 3.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. และหากไม่นับรวมภาคการขนส่งที่มีความผันผวน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 0.8%
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการเพิ่มขึ้นต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2555 เนื่องจากถูกจำกัดจากยอดขายบ้านที่อ่อนแอ และปริมาณบ้านที่มีจำกัด
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของ Conference Board บ่งชี้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนม.ค.ทะยานแตะ 102.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี จากมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจโดยรวม เทียบกับเดือนธ.ค.ที่ 93.1
ทั้งนี้ ดอลลาร์ชะลอความแข็งแกร่งลง ขณะที่นักลงทุนต่างก็รอดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ เพื่อประเมินความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย