ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1487 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5168 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.36 เยน เทียบกับระดับ 117.60 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9237 ฟรังก์ จาก 0.9229 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7795 ดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ การเจรจาประเด็นหนี้สินของกรีซมีแนวโน้มในเชิงบวก เมื่อรัฐบาลใหม่ของกรีซได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยูโรได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการที่ ECB ไม่ยอมรับการนำพันธบัตรกรีซเพื่อมาใช้ระดมทุนครั้งใหม่ เนื่องจากพันธบัตรของรัฐบาลกรีซอยู่ในระดับ “ขยะ" (junk) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ECB
ท่าทีล่าสุดของ ECB ได้สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลใหม่ของกรีซ และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นในยูโรโซน ซึ่งส่งผลให้เงินยูโรร่วงลง