ทั้งนี้ ยูโรดีดตัวขึ้น 0.25% แตะระดับ 1.1430 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยแข็งค่าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการปรับตัวดีที่สุดในรอบไม่ถึง 1 ปีเมื่อเทียบดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะ 94.028 หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 93.979 เมื่อวานนี้ ขณะที่ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 95.115 เมื่อวันพุธ
ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% สู่ระดับ 118.93 เยน หลังจากพุ่งแตะระดับสุงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ 120.48 ซึ่งทำไว้ในวันพุธ
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ ขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.2% หลังจากที่เติบโต 0.2% ในไตรมาส 3
หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.9% หลังจากเติบโต 0.8% ในไตรมาส 3
สำหรับปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ตัวเลขจีดีพียูโรโซนปรับตัวขึ้นนั้นเป็นเพราะการขยายตัวแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรป โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) รายงานในวันนี้ว่า จีดีพีเบื้องต้นของเยอรมนีในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัว 0.7% ซึ่งปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในช่วงไตรมาส 3
การขยายตัวของเยอรมนีช่วยชดเชยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศชั้นนำอื่นๆในภูมิภาค โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสขยายตัวเพียง 0.1% จากไตรมาส 3 ซึ่งส่งผลให้ประเทศเข้าใกล้ภาวะชะงักงันยิ่งขึ้นอีก ด้านอิตาลีเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักกว่า ด้วยตัวเลขจีดีพีที่หยุดนิ่งในไตรมาส 4 ส่งผลให้เป็นไตรมาสที่ 14 ติดต่อกันแล้วที่เศรษฐกิจอิตาลีไม่ขยายตัว