ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1199 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1356 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5406 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5526 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.44 เยน เทียบกับระดับ 118.86 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9536 ฟรังก์ จาก 0.9475 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7795 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7889 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยบวก หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% ในปีนี้
นายบูลลาร์ดเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง ขณะเดียวกัน เขายังคาดว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านตำแหน่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 5% ในปลายปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ช่วยหนุนดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ก็คือ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐปรับตัวที่เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่า ภาคธุรกิจได้เพิ่มการลงทุนในช่วงต้นปีนี้ หลังจากร่วงลง 2.2% และ 3.7% ในเดือนพ.ย.และธ.ค.ตามลำดับ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค.