ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1188 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1193 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5434 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.15 เยน เทียบกับระดับ 119.68 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9596 ฟรังก์ จาก 0.9542 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7769 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7811 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่ดอลลาร์ปรับตัวแข็งแกร่งขานรับมุมมองบวกของนักลงทุนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.พ.ลดลงแตะ 52.9 จาก 53.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 1 ปี
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงท่าทีระมัดระวังของครัวเรือนอเมริกัน แม้ว่าราคาน้ำมันดิ่งลง และการจ้างงานทรงตัวก็ตาม โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 0.2% ในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงยังเปิดเผยว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 1.1% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนธ.ค.