ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0603 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0535 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4854 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4934 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.36 เยน เทียบกับระดับ 121.51 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0058 ฟรังก์ จาก 1.0102 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7578 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขค้าปลีกที่อ่อนแรง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.พ.ลดลง 0.6% สู่ระดับ 4.37 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากร่วงลง 0.8% ในเดือนม.ค. โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.
การปรับตัวลงสวนทางคาดการณ์ของยอดค้าปลีกล่าสุดได้ช่วยสกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีกำหนดจะประชุมนโยบายกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดกันว่าจะมีการส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ