ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4833 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4924 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.37 เยน เทียบกับระดับ 119.34 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9653 ฟรังก์ จาก 0.9556 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์
นักลงทุนคาดกันว่ารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สัญญาณชี้วัดในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวนั้นรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายและข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
ทางด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่าภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาอาจจะไม่ยืดเยื้อ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า การเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานได้ชะลอตัวในเดือนที่แล้ว
กระทรวงรายงานว่า การเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2554