ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0742 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0735 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5045 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4925 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.87 เยน เทียบกับระดับ 119.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9696 ฟรังก์ จาก 0.9551 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7772 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7707 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลง แม้มีข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.ดีดตัวขึ้น 6.1% สู่ระดับ 5.19 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีการขยายตัวที่อ่อนแอตั้งแต่ช่วงต้นปี
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 5.03 ล้านยูนิต จาก 4.89 ล้านยูนิตในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ความคืบหน้าประเด็นหนี้สินกรีซ ขณะที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะประชุมกันในวันศุกร์นี้เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซ แม้จะมีการคาดการณ์กันว่าที่ประชุมจะยังคงไม่มีข้อตกลงใดๆเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีการประชุมยูโรกรุ๊ปในวันที่ 11 พ.ค.