ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0890 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0867 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5231 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5174 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.08 เยน เทียบกับระดับ 118.87 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9557 ฟรังก์ จาก 0.9535 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7858 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7823 ดอลลาร์
การประชุมเฟดจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ซึ่งคาดว่าในแถลงการณ์หลังการประชุมที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธจะมีการส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนก.ย. หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในภาวะอ่อนแอ
เมื่อคืนนี้ บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนเม.ย.ร่วงลงสู่ระดับ 57.8 เมื่อเทียบกับดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเดือนมี.ค.ที่ 59.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ในปีที่แล้ว
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ในคณะเจรจาของกรีซที่จะเข้าเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้จากทางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ทั้งนี้ นายซิปราสแจ้งให้นายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ ตั้งคณะทำงานชุดใหม่เพื่อเจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปกับเจ้าหนี้ โดยมีนายยูคลิด ซาคาโลทอส รมช.ต่างประเทศ เป็นผู้ประสานงานของคณะดังกล่าว