ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 120.71 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 120.01 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9370 ฟรังค์ จากระดับ 0.9258 ฟรังค์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1303 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5497 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5658 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7916 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7980 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.135 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2007 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.1991
ส่วนยูโรอ่อนแรงลงหลังจากมีข่าวว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนพ.ค.และมิ.ย.
ทั้งนี้ นายเบอนัวท์ เกอร์ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ ECB เปิดเผยว่า ทาง ECB เตรียมเพิ่มปริมาณการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนพ.ค.และมิ.ย. ก่อนที่จะชะลอการซื้อในเดือนก.ค.และส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดพันธบัตรมีการซื้อขายที่ซบเซา
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับประเทศเจ้าหนี้ได้อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
ส่วนนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เปิดเผยว่า กรีซกำลังใช้ความพยายามขั้นสุดท้ายเพื่อให้บรรลุข้อตกลงในเรื่องการแก้ปัญหาวิกฤตหนี้สินร่วมกับเจ้าหนี้ในช่วงไม่กี่วันนี้