ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1276 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1119 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5334 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5274 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.61 เยน เทียบกับระดับ 125.62 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9293 ฟรังก์ จาก 0.9396 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7696 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7616 ดอลลาร์
นักลงทุนเทขายทำกำไรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทะยานขึ้นขานรับข้อมูลจ้างงานที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 280,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. จากระดับ 221,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.5% จาก 5.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 5.4%
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกที่ว่าดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป หลังจากที่มีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ซึ่งอยู่ที่เยอรมนีเพื่อร่วมการประชุมสุดยอด G7 นั้น ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับดอลลาร์ที่แข็งค่า
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ปธน.โอบามาได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมสุดยอด G7 แต่ดอลลาร์ก็ยังคงปรับตัวในช่วงขาลง