ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1241 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1292 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5648 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5612 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.37 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9325 ฟรังก์ จาก 0.9285 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7745 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7765 ดอลลาร์
เฟดเปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินที่มีระยะเวลา 2 วันเมื่อวานนี้ เพื่อที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป หลังจากที่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยต่ำใกล้ระดับ 0% มานับตั้งแต่ปลายปี 2551 เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัว
บรรดานักวิเคราะห์มองว่าเฟดไม่มีแนวโน้มจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ความคิดเห็นของเฟดเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย
สกุลเงินยูโรยังคงถูกกดดัน ขณะที่ความล้มเหลวในการหารือระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องออกจากยูโรโซน
ทั้งนี้ คาดกันว่าการประชุมของรัฐมนตรีคลังจากยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ในวันพฤหัสบดีนี้ จะเป็นโอกาสสุดท้ายของกรีซที่จะเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยยูโรกรุ๊ปจะพยายามบรรลุข้อตกลงก่อนที่มาตรการช่วยเหลือของสหภาพยุโรป (EU) สำหรับกรีซจะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.นี้