ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1339 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1353 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5829 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5882 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.39 เยน จาก 122.65 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9213 ฟรังก์ จาก 0.9173 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7727 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7766 ดอลลาร์
ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสได้ช่วยหนุนดอลลาร์สหรัฐ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 5.1% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2552 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง หลังจากยอดขายร่วงลงเกินคาดในเดือนเม.ย. จากที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนในเดือนมี.ค.
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น 4.2% สู่ระดับ 5.25 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลที่แข็งแกร่งดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ หลังจากที่อยู่ในภาวะอ่อนแอในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ โดยจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังคงจับตาดูสถานการณ์หนี้สินของกรีซ ขณะที่การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป เกี่ยวกับหนี้กรีซได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมให้การขานรับต่อข้อเสนอของกรีซ แต่ก็ขอเวลาอีกหลายวันเพื่อศึกษารายละเอียดในข้อเสนอดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ โดยรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะประชุมกันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้