ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1051 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1114 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5603 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5570 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 122.45 เยน จาก 122.79 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9427 ฟรังก์ จาก 0.9404 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7499 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7523 ดอลลาร์
สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลง หลังจากผลการลงประชามติเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าชาวกรีซเลือกโหวต ‘No’ ซึ่งเป็นการปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดจากทางเจ้าหนี้ และทำให้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่กรีซจะต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน
นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า “ผลการลงประชามติครั้งนี้ออกมาน่าผิดหวังอย่างมากสำหรับอนาคตของกรีซ"
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการที่สดใส หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 56.0 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนพ.ค.