ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1135 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1162 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5612 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5608 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.45 เยน จาก 124.22 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9770 ฟรังก์ จาก 0.9743 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7359 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์
ตัวเลขค้าปลีกล่าสุดของสหรัฐบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและเป็นปัจจัยบวกต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเดือนก.ย.นี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 0.5% และหากเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค.
ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ส่งผลให้มีแรงซื้อรถยนต์และสินค้าอื่นๆ ตลอดจนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวขณะเข้าสู่ไตรมาส 3
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากแถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนและการที่เงินหยวนของจีนชะลอการร่วงลง
ธนาคารกลางจีนออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้า ธนาคารกลางจะรักษาเสถียรภาพเงินหยวนให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลและมีความสมดุล หลังจากที่ค่าเงินหยวนของจีนร่วงลงติดต่อกันหลายวัน ภายหลังจากที่จีนประกาศลดค่าเงินหยวนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวได้ช่วยคลายความวิตกของนักลงทุน และส่งผลให้ตลาดหันกลับไปให้ความสนใจกับประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย.