ยูโรดิ่งกว่า 1% หลังแบงก์ชาติยุโรปหั่นคาดการณ์จีดีพี,อัตราเงินเฟ้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 3, 2015 21:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูโรดิ่งลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับทั้งดอลลาร์และเยน โดยได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัว และอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซน ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ทางด้านดอลลาร์ดีดตัวขึ้นวันนี้จากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

ณ เวลา 21.32 น.ตามเวลาไทย ยูโรร่วงลง 1.04% สู่ระดับ 1.1115 ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.12% สู่ระดับ 133.57 เยน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.12% สู่ระดับ 120.20 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.41% สู่ระดับ 96.365

ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ 19 ประเทศในยูโรโซนในปีนี้ รวมทั้งปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ECB คาดว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะเติบโต 1.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% หลังจากขยายตัว 0.9% ในปีที่แล้ว ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.7% ในปีหน้า ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1.9%

นอกจากนี้ ECB ยังได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสู่ระดับ 0.1% ในปีนี้ จากระดับ 0.3% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.1% ในปีหน้า ลดลงจาก 1.5% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวันนี้ว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 7.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.186 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศสำหรับรถยนต์และสินค้าด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขาดดุลการค้า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 282,000 ราย

การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.

อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 26 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้เพื่อหาทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

นอกจากนี้ บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 55.2 ขณะที่ปรับตัวขึ้นจากระดับ 55.7 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 56.0

ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3

ดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ